วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560

ความหมายของ "ของชำร่วย"

ความหมายของ "ของชำร่วย"


         การประดิษฐ์ของชำร่วยควรประดิษฐ์ในลักษณะสวยงาม กะทัดรัด ของชำร่วย นี้อาจประดิษฐ์ด้วยดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง บุหงา พวงกุญแจ ภาชนะกระเบื้องเล็กๆ การพับผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนูเป็นตัวสัตว์ ซึ่งเป็นของที่จะต้องจัดทำ จัดหาเป็นจำนวนมาก ให้พอกับการแจกผู้ที่มาในงาน ในปัจจุบันการทำของชำร่วยประเภทดอกไม้สด เช่น มาลัยคล้องมือ มาลัยผ้าเช็ดหน้า มาลัยตุ้ม ช่อดอกไม้ติดเสื้อ ตัวกระแตจากดอกไม้สด ฯลฯ ซึ่งของสดเหล่านี้ประดิษฐ์ไว้ล่วงหน้านานไม่ได้ จะต้องประดิษฐ์ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาใช้ ซึ่งจะต้องใช้แรงงานในเวลาจำกัด จึงไม่ค่อยนิยมใช้ อาจมีการประดิษฐ์บ้าง เฉพาะประธานในพิธีและแขกผู้ใหญ่ 2 - 3 คน ในงานเท่านั้น ฉะนั้น ของชำร่วยเป็นของแห้ง ประเภทพวงกุญแจ จานกระเบื้อง ตุ๊กตาผ้า ตุ๊กตากระเบื้อง แจกันเล็กๆ ดอกไม้แห้งพั เครื่องแขวนเล็กๆ จึงนิยมกันมากในปัจจุบัน และ ผู้ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมไทยมักนิยมแจกของชำร่วยด้วยบุหงาสด บุหงาแห้ง
ความหมายของคำว่า “ของชำร่วย” 
        ของชำร่วยตามความหายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง ของตอบแทนผู้มาช่วยงาน เช่น งานแต่งงาน และงานศพ และปัจจุบันความหมายของ “ของชำร่วย” จะกว้างขึ้น เพราะวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันนั้นมีกิจกรรมมากมาย จึงใช้ของตอบแทนในโอกาสอื่นๆ เช่น ให้ความร่วมมือสนับสนุนในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เปิดกิจการ บริษัท ห้าง ร้าน ธนาคาร งานฉลองตำแหน่งงานเกษียณอายุ ฯลฯ แต่ความหมายที่น่าสำคัญในแต่ละบุคคลอีกนัยหนึ่ง คือ เป็นเครื่องบอกถึงมิตรภาพระหว่างผู้ให้และผู้รับได้เป็นอย่างดี

ประวัติความเป็นมาของ “ของชำร่วย”
       ประวัติความเป็นมาของ ของชำร่วยนั้น เป็นสิ่งที่ยากแก่การสืบหาหลักฐาน เนื่องจากมิได้บันทึกเป็นหลักฐานใดๆ ที่กล่าวไว้โดยตรง มีการกล่าวถึงพิธีการแต่งงานและของชำร่วยในหนังสือ ประเพณีเนื่องในการปลูกเรือน – แต่งงาน ของพระยาอนุมานราชธน ประเพณีแต่งงานของเจ้านายในสมัยก่อน เจ้านายทรงหาหม่อมได้เองตามใจชอบ ไม่มีพิธีแต่งงาน มามีพิธีแต่งงานขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นครั้งแรก แต่ในหนังสือสิ่งแรกในประเทศไทย เล่ม 4 ของสงวน อั้นคง ได้กล่าวถึงการ์ดเชิญแต่งงานเก่าแก่ที่สุด มีขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 พ.ศ.2419 ที่ทรงพระราชทานไปยังมิสเตอร์ทอมาสยอช มอกส์ กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพ ณ ขณะนั้น ได้ทรงส่งการ์ดเชิญงานอภิเษกสมรสระหว่างหม่อมเจ้าชายเดช กับหม่อมเจ้าหญิงแก้วกัลยา ซึ่งเป็นหลานของรัชกาลที่ 4 ทั้งคู่ สันนิษฐานว่า อาจจะมีที่ไม่ได้จะเป็นระเบียบแบบแผนที่ชัดเจนเหมือนสมัยรัชกาลที่ 5 และในการกล่าวถึงพิธีแห่ขันหมากในหนังสือ ประเพณีในการปลูกเรือน – แต่งงาน ของพระยาอนุมานราชธน ว่า มีของชำร่วยแถมพกสำหรับทุกคนในขบวนขันหมาก และเถ้าแก่ของทั้งฝ่ายเจ้าสาว – เจ้าบ่าว จะได้แถมพกพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ของเหล่านี้ฝ่ายเจ้าสาวเป็นฝ่ายจัดหามาแถมพกทั้งสิ้น ของแถมพกในปัจจุบันมักจะเป็นเงินใส่ซอง สมัยก่อนคงแจกผ้าไหม ผ้าห่ม และกล่าวถึงของชำร่วยโดยตรงพิธีรดน้ำว่า แขกที่รดน้ำออกมาก็ได้รับของชำร่วย ซึ่งบางทีก็มีแบ่งชั้น ถ้าเป็นแขกผู้ใหญ่มีหน้ามีตาก็ได้รับพวงมาลัย ถ้าเห็นว่าเป้นแขกสามัญก็ได้รับแต่ช่อบุหงา

Credit By : บทเรียนรายวิชาช่างประดิษฐ์ของชำร่วย  โรงเรียนเขาย้อยวิทยา
                     หนังสือ เครื่องหอมของชำร่วยและสปาไทย สำนักพิมพ์เมธาวินี พิมพ์ครั้งที่ 1/2554 ผู้แต่ง โสภาพรรณ อมตะเดชะ